บางทีเราอาจะทำร้ายเท้าโดยไม่รู้ตัว ลองมาเช็คลิสกันหน่อยว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้น ส่งผลเสียต่อสุขภาพเท้าอยู่รึเปล่า? สมัยนี้มักประสบปัญหาอาการปวดเมื่อยเท้า มักมองหาหมอนวดเท้ากันเป็นแถว แต่ของแบบนี้แก้ที่ปลายเหตุอาจไม่เห็นผล เรามาดูกันดีกว่าว่ามีสาเหตุใดบ้าง

1.เดินเท้าเปล่าบนพื้นแข็ง การเดินเท้าเปล่าเพียง 5,000-10,000 ก้าวต่อวัน ก็ส่งผลให้คุณเกิดอาการปวดเท้าได้ เพราะความแข็งของพื้นทำให้น้ำหนักถ่ายเทลงไปอย่างผิดลักษณะ เกิดเป็นอาการปวดส้นเท้า ฝ่าเท้า หรือแม้กระทั่งปวดเข่าตามมาได้

2.ใส่รองเท้าส้นแบนหรือรองเท้าแตะนิ่มๆ รองเท้าที่มีพื้นรองเท้านุ่มนิ่มทำให้แนวโน้มที่จะย่างเดินโดยมีลักษณะเท้าบิดเข้าด้านใน (Over Pronation) มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะการเดินที่ทำให้เท้านิ้วโป้งและบริเวณที่ไล่ลงมารับน้ำหนักมากกว่าส่วนอื่น ๆ การเดินลักษณะเช่นนี้จึงเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บได้มาก

3.เดินผิดวิธีจนน่องโต อาการนี้น่าจะเกิดขึ้นกับคนที่ออกกำลังกายหนัก ๆ จนไขมันที่ขาหายไปและเห็นก้อนกล้ามเนื้อได้ชัดเจน แต่ที่จริงผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักตัวเกินก็ประสบปัญหาน่องโตได้เช่นเดียวกัน นั่นเป็นเพราะท่วงท่าการเดินที่ไม่ถูกลักษณะ ทำให้กล้ามเนื้อที่น่องทำงานหนักเกินไป

4.ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้น้ำหนักเกิน การที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ส่งผลต่อสุขภาพเท้าได้ไม่น้อย เพราะนั่นหมายความว่าเท้าทั้งสองข้างจะต้องแบกรับภาระมากกว่าเดิม น้ำหนักที่กดลงที่เท้าทั้งสองข้างก็มากขึ้นกว่าเดิมทำให้ปวดเท้าง่าย หากปล่อยทิ้งไว้นานเข้าก็นำไปสู่โรคเอ็นร้อยหวายอักเสบ หรือโรคข้อเสื่อมได้ทีเดียวค่ะ

รู้กันแบบนี้ต้องมาเริ่มต้นที่การปรับพฤติกรรมกันก่อน น่าจะช่วยอาการปวดเมื่อยหรืออาการบาดเจ็บที่เป็นอยู่ได้ไม่น้อยเลยนะคะ

ที่สำคัญเพื่อการดูแลรักษาเท้าควรสวมใส่ถุงเท้าเป็นประจำตลอดเวลา เพื่อช่วยซัพพอร์ตแถมถนอมเท้า ป้องกันเท้าแตก เท้าลอกได้อีกด้วย

อย่าลืมกด Like กด Share ให้เพื่อนกันด้วยน้า

#Easey อยากเห็นทุกก้าวของทุกคนมีแต่เรื่องดีๆค่า